Ulthera คือ นวัตกรรมที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ในการส่งผ่านพลังงานอย่างแม่นยำด้วย Deepsee Technology เพื่อลงไปยังผิวหนังชั้น SMAS (Superficial musculoaponeurotic system) ซึ่งเป็นชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ในกรณีที่มีผิวหน้ามีความหย่อนคล้อยไม่มาก ผลลัพธ์ที่ได้เทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า
พลังงานที่นำส่งลงไปจะกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง หลายชั้น โดยไม่มีการบาดเจ็บผิวหนังด้านบน ไม่ทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองแพ้ง่าย และไม่มีผลกับการโดนแสงแดดหลังทำ ผลจากการทำ ulthera จะเห็นชัดเจนตั้งแต่ 2-3 เดือนแรก และผลอยู่นานถึง 1 ปี
เครื่อง ulthera ได้รับการรับรองถึงผลลัพธ์จาก U.S FDA ในเรื่องของการยกกระชับ และลดริ้วรอย ซึ่งสามารถ ช่วยยกกระชับทั่วใบหน้า เหนียงใต้คาง คอ ยกคิ้ว ริ้วรอยรอบดวงตา และริ้วรอยที่หน้าอกได้
ulthera เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยเล็กรอบดวงตา ต้องการยกคิ้ว และถุงใต้ตา
- ผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยของใบหน้าที่ไม่มากนัก มีร่องแก้ม มีร่องมุมปากแก้ม
- ผู้ที่ต้องการกระชับผิวบริเวณลำคอ
- ผู้ที่ ต้องการกระชับเหนียง คางสองชั้น
Ulthera ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- ช่วยยกกระชับบริเวณกราม ใต้คาง และลำคอ
- ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา และยกกระชับคิ้ว
- ช่วยลดริ้วรอยที่หน้าผาก
ผลข้างเคียงจาก ulthera
- Ulthera จะไม่ส่งผลรบกวนกับการฉีดโบท็อกซ์ หรือ ฟิลเลอร์ ซึ่งขอแนะนะว่าควรทำในระยะเวลาที่ต่างกัน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย และประหยัดงบประมาณของตนเอง เนื่องจากการทำ ulthera จะมีราคาค่อนข้างสูง
- ผิวบริเวณที่ทำอาจดูบวมแดงซึ่งจะหายไปเองในเวลาไม่นาน
- หลังทำสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
- ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลแต่ยังไม่เคยมีรายงานว่าทำให้เกิดการติดเชื้อ เกิดรอยไหม้ รอยด่าง ผิวเสียหาย เป็นต้น
Ulthera ทำบริเวณไหนได้บ้าง
- บริเวณใบหน้า ลำคอ ใต้คาง หรือเหนียง
- บริเวณรอบดวงตา
- บริเวณแก้ม
- บริเวณผิวหน้าอก
- บริเวณหน้าท้อง และ ท้องแขน มีงานวิจัยว่าสามารถทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย เช่น หน้าท้องหลังคลอดลูกเรียบเนียนขึ้น หรือท้องแขนห้อย มีขนาดลดลง ทำให้แขนดูเล็กลง
ขั้นตอนการทำ ulthera
- เตรียมผิว ก่อนทำ ulthera โดยแพทย์จะทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะทำ
- แพทย์จะทำการทายาชาชนิดครีมทาทั่วบริเวณผิว โดยทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที จนยาชาออกฤทธิ์ เมื่อครบกำหนดเวลาแพทย์จะทำการเช็ดยาชาออก
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้หัว ulthera สัมผัสเบา ๆ บริเวณผิวและเคลื่อนไปตามจุดต่าง ๆ ทั่วบริเวณผิวที่ทำตามพลังงานที่คำนวณไว้
ในขณะทำการรักษาด้วยเครื่อง ulthera จะมีการปล่อยคลื่น ultrasound ลงสู่เนื้อเยื่อใต้ผิว ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกถึงพลังงานเป็นจุดเล็ก ๆ ลงบนผิวลึก ๆ จะรู้สึกเจ็บขณะทำ แต่เจ็บแบบทนได้ เนื่องจากคอลลาเจนใต้ผิวเราจะสร้างขึ้นได้เมื่อมีความร้อนอุณหภูมิ 50 – 70 องศาเซลเซียส ลงสู่ผิวชั้นหนังแท้
ด้วยความร้อนระดับนี้จะต้องมีความรู้สึกเจ็บบ้าง อาจจะรู้สึกเหมือนหนังยางดีดลึกๆ เจ็บลึกๆ และจะรู้สึกอุ่น ๆ ที่ใต้ผิวหนัง ซึ่งความรู้สึกนี้จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล บางคนรู้สึกเจ็บมาก บางคนรู้สึกเจ็บปานกลาง บางคนแทบไม่รู้สึกเลย การทายาชาจะช่วยบรรเทาเจ็บได้
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ ulthera
- บริเวณผิวที่ทำจะรู้สึกตึงยกกระชับขึ้น
- รู้สึกได้ถึงรูขุมขนที่เล็กลง
- ริ้วรอยตามร่องแก้มดูตื้นขึ้น ในส่วนของใบหน้าและลำคอจะดูกระชับขึ้น
- บริเวณเหนียงใต้งคางดูตึงไม่เหี่ยวย่น
- กรอบหน้าของผู้เข้ารับบริการจะดูเด่นชัดขึ้น
- ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเป็น v shape ขึ้น
- หางคิ้ว หางตา และหนังตายกกระชับขึ้น
- ใต้ตาที่หย่อนคล้อยดูยกกระชับขึ้น
อาการข้างเคียงหลังทำ ulthera หลังการรักษาสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องมีการพักฟื้นใด ๆ ภายใน 2 วันแรก อาจจะมีอาการระบมและปวดได้ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น ส่วนมากไม่พบอาการข้างเคียงใด ๆ มีรายงานว่าบางรายหลังทำใบหน้าอาจบวมเล็กน้อยประมาณ 2-10 แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยสังเกตเห็น
ผู้ที่ไม่ควรทำ Ulthera
- หญิงที่กำลังตั้งครรภ์
- คุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่เป็นโรค SLE
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่รักษาด้วยการฉีดอินซูลิน (insulin)
- ผู้ที่เป็นโรคลมชัก (epilepsy)
- ผู้ที่มีค่า BMI > 30 (เนื่องจากชั้นของไขมันอาจจะหนาจนทำให้ พลังงานลงไปไม่ถึงชั้น SMAS)
บทสรุป
ulthera คือ นวัตกรรมคลื่นเสียงที่นำมาใช้ช่วยในการกระชับผิวของผู้ที่มีลักษณะผิวที่ดูหย่อนคล้อย ซึ่งสามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยก่อนที่จะทำท่านควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอน วิธี ข้อห้าม ข้อปฏิบัติ เพื่อที่จะเมื่อทำมาแล้วผิวจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ เพราะ การทำ ulthera มีราคาค่อนข้างสูง