ตาปลา เป็นโรคที่เกิดจากเนื้อเยื่อของผิวหนังมีความหนาและนูนขึ้นมาเป็นตุ่มเล็ก ๆ เวลาสัมผัสหรือโดนใสก็จะรู้สึกเจ็บขึ้นมาทันที ตาปลาพบมากที่ฝ่ามือ และฝ่าเท้า เกิดจากที่ฝ่ามือ และฝ่าเท้าโดนกดทับเป็นเวลานาน ๆ และโดนเสียดสีกันของผิวหนัง
สาเหตุของการเป็นตาปลาบริเวณต่าง ๆ
1.เป็นตาปลาที่เท้า
หากเป็นตาปลาที่เท้า สาเหตุมาจากการสวมใส่รองเท้าที่ไม่พอดีกับเท้าทำให้เลื่อนถูไปถูมาระหว่างเท้ากับรองเท้า และใส่รองเท้าที่บีบรัดเท้าจนเกินไป เช่น ใส่รองเท้าส้นสูงที่บีบรัดหน้าเท้า หรือการยืนเป็นเวลานาน ๆ สวมใส่รองเท้าโดยไม่ใส่ถุงเท้าทำให้เกิดการเสียดสี จนมีตุ่มเล็ก ๆ และสุดท้ายก็จะกลายเป็นตาปลานั่นเอง
2.เป็นตาปลาที่มือ
หากเป็นตาปลาที่มือ สาเหตุเกิดจากยกของหนักเป็นประจำทำให้ของที่เราถือเสียดสีกับมือจนเกิดตุ่มเล็ก ๆ และการทำงานที่มีการเสียดสีที่มือเป็นประจำ เช่นการร้อยพวงมาลัย เขียนหนังสือมากโดยการออกแรงกดที่นิ้วกับปากกาหรือดินสอมากไป สาเหตุเหล่านี้จะทำให้มือเป็นตาปลาได้
ภาวะแทรกซ้อนของตาปลา
- ตาปลาเป็นโรคที่ไม่รุนแรง เพียงจะมีอาการเจ็บและมีอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น โดยภาวะแทรกซ้อนของตาปลามีดังนี้
- ตาปลาที่มีอาการเจ็บจะทำให้เดินเหินลำบาก ทำอะไรไม่สะดวก
- ผู้ที่เป็นตาปลามักจะเฉือนตาปลาออกเองและทำพลาดไปเฉือนเอาหนังปกติออก และกลายเป็นแผลอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียได้
- สำหรับคนที่เป็นตาปลาชนิดอ่อนและมีผิวหนังลอกอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ง่าย โดนเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ถ้าเป็นตาปล่อยแล้วปล่อยไว้นานเกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรดูแลตัวเองให้ดีอย่าให้เกิดการติดเชื้อเด็ดขาด
วิธีการรักษาตาปลาด้วยสมุนไพรไทย
การรักษาตาปลาด้วยสมุนไพรไทย มีดังนี้
1.น้ำส้มสายชูกลั่นขาว
เริ่มจากน้ำส้มสายชู น้ำส้มสายชูเป็นของใกล้ตัวที่สามารถหาได้ง่าย และสามารถรักษาตาปลาได้ดี เพราะกรดของน้ำส้มสายชูช่วยให้ผิวที่แห้งแข็งนุ่มลงได้ และยังสามารถลดอาการติดเชื้อได้ดีอีกด้วย
วิธีทำ นำน้ำสายชูผสมกับน้ำปลาประมาณ 3 ส่วน แล้วนำสำลีชุบน้ำส้มที่เราผสมทาลงตาปลา ปิดด้วยผ้าพันแผลทิ้งไว้ประมาณ 1 คืนจากนั้นเอาผ้าพันแผลออกแล้วขัดที่เป็นตาปลาด้วยหินขัดเท้า ขัดเบา ๆ หลังจากนั้นบำรุงด้วยนำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว ทำซ้ำทุกวันจนตาปลาหลุดออก แต่ควรระหวังอาจผสมน้ำส้มเข้มข้นเกินไป
2.เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดาเป็นสารที่ช่วยขจัดตาปลาให้หายได้ และยังช่วยฆ่าเชื้อได้ดีอีกด้วย
วิธีทำ ใช้เบกกิ้งโซดาประมาณ 3 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำเปล่าแล้วแช่เท้าประมาณ 10-15 นาที แล้วขัดตาปลาด้วยหินขัดเท้าหรือแปรงนุ่ม ๆ ขัดเบา ๆ หรือจะใช้มะนาวกับเบกกิ้งโซดาและน้ำเปล่าผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมแล้วนำไปทาบริเวณที่เป็นตาปลาแล้วปิดด้วยพลาสเตอร์ทิ้งไว้ 1 คืนแกะออกล้างด้วยน้ำอุ่น จากนั้นก็ขัดด้วยหินขัดเท้าเบา ๆ จะช่วยให้ตาปลาหลุดออกได้ง่ายและต้องทำเป็นประจำจนกว่าตาปลาจะหาย
3.มะนาว
น้ำมะนาว เป็นของใกล้ตัวซึ่งสามารถรักษาตาปลาได้อย่างมีคุณภาพ เพราะว่ากรดจากน้ำมะนาวและนั้นสามารถช่วยทำให้ตาปลาที่แข็งนุ่มลงได้และก็ช่วยทำให้ตาปลาหลุดออกมาได้เร็วขึ้น โดยใช้สำลีชุบลงในน้ำมะนาวแล้วถูรอบๆที่เป็นตาปลา ต่อจากนั้นปล่อยทิ้งเอาไว้ให้แห้ง ทำใหม่ทุกวันจะช่วยทำให้เห็นผลเร็วขึ้น หรือจะใช้บริเวอร์ยีสต์ (Brewer’s Yeast) ซึ่งเป็นอาหารเสริมผสมกับน้ำมะนาวเล็กน้อยลงเป็นเนื้อครีม พอกที่รอบๆตาปลา ปิดทับด้วยพลาสเตอร์แล้ว ทิ้งเอาไว้ 1 คืน จะช่วยทำให้ตาปลานุ่มลงได้ด้วยเหมือนกัน
4.กระเทียม
กระเทียมมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และก็ป้องกันเชื้อแบคทีเรียและทำลายเชื้อ นอกจากนั้นยังป้องกันการได้รับเชื้อ ก็เลยสามารถช่วยรักษาโรคตาปลาให้หายได้ โดยการนำกระเทียมมาผ่าครึ่งแล้วเช็ดรอบๆที่เป็นตาปลา ปล่อยทิ้งเอาไว้ให้แห้ง แล้วปิดพลาสเตอร์ทับทิ้งเอาไว้ 1 คืน ช่วงเช้าแกะออกแล้วล้างด้วยน้ำอุ่น หรือจะใช้กระเทียมสับมาพอกแล้วปิดทับด้วยพลาสเตอร์ 3 วันก็จะสามารถช่วยทำให้ตาปลาหลุดออกมาค่ะ
5.น้ำมันสน
น้ำมันสน มีฤทธิ์สำหรับการทำลายเชื้อที่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถรักษาตาปลาได้ แล้วก็สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ช่วงเวลาสำหรับการรักษาสั้นลง วิธีการใช้น้ำมันสนสำหรับการรักษาตาปลาที่ดีที่สุดคือก่อนใช้ควรที่จะนำน้ำแข็งประคบลงรอบๆที่เป็นตาปลาประมาณ 2 นาทีแล้วเช็ดให้แห้งหลังจากนั้นน้ำมันสนทาลงรอบๆตาปลา แล้วปิดพลาสเตอร์ทับไว้ 1 คืน แล้วก็แกะออกในช่วงเช้า ทำเป็นประจำทุกวันจะช่วยทำให้หายไวขึ้น
6.มะละกอดิบ
มะละกอดิบเป็นวิธีที่ช่วยรักษาตาปลาได้ง่ายแถมได้ผลมากที่สุด เพราะว่าเอ็นไซม์บางจำพวกในมะละกอดิบสามารถช่วยกำจัดผิวหนังที่ตายแล้ว แถมยังช่วยรักษาอาการเจ็บรอบๆตาปลา แล้วก็ยังส่งผลให้ตาปลาแห้งลงและหลุดไปเองได้อย่างง่ายได้ วิธีการใช้ก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงแต่นำมะละกอดิบมาคั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำสำลีชุบน้ำมะละกอดิบแปะลงบนแผลหลังจากนั้นปิดด้วยเทปพันแผลทิ้งไว้ 1 คืนแล้วทำความสะอาด ทำใหม่ทุกวันจนกว่าจะเห็นผล
7.ผงขมิ้น
สารคูเคอร์มินในขมิ้นมีฤทธิ์ลดการอักเสบโดยธรรมชาติ และก็สามารถลดอาการเจ็บและก็แผลตาปลาให้หายได้เร็วขึ้น โดยนำผงขมิ้นไปผสมกับน้ำผึ้งให้เป็นเนื้อครีม ทาบริเวณที่เป็นตาปลาแล้วปล่อยทิ้งเอาไว้ให้แห้ง ทำซ้ำ 2-3 ครั้งต่อวัน อย่างน้อย 1 อาทิตย์ ตาปลาก็จะค่อยๆหลุดไป
8. สับปะรด
เปลือกสับปะรดที่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ก็สามารถรักษาตาปลาได้ โดยการนำเปลือกที่เราไม่ใช้แล้วมาหั่นเป็นขนาดพอดีกับตาปลาแล้วแปะลงตาปลาต่อจากนั้นปิดทับด้วยพลาสเตอร์ทิ้งไว้ 1 คืน ต่อจากนั้นแกะออกล้างให้สะอาด และทาบริเวณตาปลาด้วยน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะพร้าว ทำแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำจนกว่าจะหาย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการรักษาตาปลาให้หายด้วยวิธีธรรมชาติ หากรักษาด้วยวิธีเหล่านี้แล้วยังไม่เห็นผลหรือยังไม่หายหรือเป็นแบบรุนแรงให้รักษาด้วยวิธีการผ่าตัดและวิธีการเลเซอร์ตาปลา แต่การรักษาด้วยเลเซอร์ตาปลาราคาค่อนข้างสูงแต่ผลลัพธ์ออกมาคุณต้องพอใจแน่นอน
