สำหรับใครที่สักคิ้วมา แล้วรู้สึกเบื่อคิ้วแบบเดิมจะลบทิ้ง ปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเรามีวิธีลบรอยสักกันหลากหลายวิธี แต่วิธีที่กำลังนิยมใช้กันนั้นก็คือการลบรอยสักด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด
การลบรอยสักคิ้ว มีทั้งหมด 3 วิธี
1.การลบรอยสักคิ้วด้วยน้ำยาเคมี
วิธีการลบรอยสักคิ้ว ด้วยน้ำยาเคมีปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้วเนื่องจากเป็นวิธีที่มีอัตราเสี่ยงสูงมากหากน้ำยาเคมีเข้าตา และไม่สามารถใช้ลบได้จริง เนื่องจากเม็ดสีที่เกิดจากการสักจะสะสมอยู่ในบริเวณชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งหากน้ำยาที่มีความเป็นกรดสูงอาจจะกัดกร่อนผิวถึงชั้นหนังแท้ได้ และจะก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาจากการบาดเจ็บของผิวหนัง จึงไม่เป็นที่นิยมกันในทางการแพทย์ ซึ่งวิธีการลบด้วยน้ำยาเคมีนี้ส่วนใหญ่จะให้บริการตามร้านเสริมสวย หรือหมอกระเป๋าและร้านสักคิ้วที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งน้ำยาเคมีที่ใช้ลบรอยสักคิ้วมี 2 ชนิดคือ
น้ำยาเคมีชนิดอ่อน
น้ำยาเคมีชนิดอ่อน เป็นสารสกัดที่ได้จากพืช สมุนไพร หรือผลไม้ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดทำให้สามารถกัดกร่อนผิวบริเวณคิ้วได้
น้ำยาเคมีชนิดแรง
น้ำยาเคมีชนิดแรง หรือน้ำกรด ซึ่งเป็นสารที่ไวต่อผิวหนังเมื่อใช้น้ำกรดลบรอยสักอาจส่งให้ผิวบริเวณดังกล่าว ไหม้ เพราะฤทธิ์ของน้ำกรดที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายต่อดวงตา
2.การลบรอยสักคิ้วด้วยวิธีสักสีเนื้อทับหรือสักกลบ
การลบรอยสักคิ้วด้วยการสักสีทับหรือสักกลบซึ่งจะใช้สีที่ใกล้เคียงกับสีผิวของเรา
การลบรอยสักคิ้วโดยสักสีทับ ในขณะที่ดำเนินการสัก
เป็นการสักสีทับหรือสักสีกลบเพื่ออำพรางความผิดพลาดเช่น สักเกินแบบที่วาดไว้หรือสักผิดพลาด
การลบรอยสักคิ้วโดยสักสีทับหรือสักสีกลบ เพื่อปิดทับรอยสักเดิม
เป็นการสักสีเนื้อทับหรือสักสีกลบเพื่อปกปิดรอยสักเดิมหรือสีสักเดิมที่ลบออกได้ยาก ซึ่งหากใช้สีที่ไม่สมจริงมาสักทับหรือสักกลบ ย่อมทำให้สีแปลกตา และรอยสักที่กลบทับมีความหนาขึ้นและไม่เรียบเนียน
3.การลบรอยสักด้วยวิธีเลเซอร์
การลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ วิธีนี้เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเพราะไม่เจ็บและสะดวกกับผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัยตลอดจนถึงด้านของสภาพผิวหลังจากที่ลบรอยสักแล้ว การลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์นั้นแตกต่างจากการลบรอยสักอื่น ๆ การลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์โดยต้องกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ศัลยกรรมเท่านั้น เพราะอาจส่งผลให้หลังลบรอยสักคิ้วแล้วสภาพของผิวอาจจะไม่สมบูรณ์ ดังนั้นเพื่อให้คิ้วคู่สวยคงอยู่กับใบหน้าเราได้นานเท่านานควรตระหนักและให้ความสำคัญในการเลือกสถานที่ที่ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะสามารถคลายความกังวลในด้านความปลอดภัยได้
ก่อนรับการลบรอยสัก
- แพทย์จะต้องวิเคราะห์เรื่องสภาพผิวก่อนทำการลบรอยสักเนื่องจาก สภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อการกำหนดค่าพลังงานของแสงเลเซอร์ เพราะผิวหนังบริเวณคิ้วมีลักษณะบางกว่าบริเวณอื่น ๆ ส่งผลให้เวลาลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากผิวหนังอาจ เกิดรอยดำ รอยแดง ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- แพทย์จะต้องวางแผนและขั้นตอนในการรักษาเพราะสีที่ใช้สักและวิธีการสักที่ลูกค้าได้สักมา มีผลต่อการจำนวนครั้งในการรักษา เนื่องจากความเข้มของสีที่อยู่บริเวณผิวหนังส่งผลต่อการกำหนดค่าพลังงานด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นรายละเอียดที่สำคัญมาก
- แพทย์จะต้องประเมินสภาพผิวหลังการลบรอยสักให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์
ดูแลตัวเองหลังลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์
หลังจากเลเซอร์แล้ว ผิวบริเวณนั้นจะมีแผล ให้ทาครีมและห้ามโดนน้ำตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เมื่อครบ 24 ชั่วโมงหลังเข้ารับการทำเลเซอร์แล้ว ควรทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่ถูกยิงเลเซอร์วันละ 4-5 ครั้ง และหมั่นทาขี้ผึ้งเพื่อไม่ให้เกิดสะเก็ดแผล แผลจะตกสะเก็ดและหลุดออกเอง ห้ามใช้มือแกะออก เพราะจะยิ่งทำให้เกิดแผล หากเกิดอาการอักเสบ บวมแดง หรือเป็นแผลนูน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา
การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีลบรอยสักที่ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากด้วยการใช้พลังงานจากแสงเลเซอร์เข้าไป ทำให้เม็ดสีของหมึกที่สักลงไปที่ผิวหนังแตกตัวกระจายออก กลายเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ ที่ร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้เอง ทำให้รอยสักจางลงไปได้