Blog

thermage เป็นเทคโนโลยีกระชับผิวที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency หรือ RF) โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า (Monopolar Capacitive Radiofrequency : CRF) ซึ่งปลอดภัยในการรักษา โดยความร้อนจะลงลึกไปในชั้นผิว จนถึงชั้นไขมันและCollagen ส่งผลให้Collagenกลับมามีความยืดหยุ่นพร้อมกระตุ้นให้เกิดการสร้างCollagenใหม่ทำให้เกิดความยืดหยุ่นที่มากขึ้น ยกกระชับผิวได้อย่างต่อเนื่อง ลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้ซึ่งเหมาะกับผู้มีไขมันบริเวณหน้าเยอะและต้องการยกกระชับ

thermage เหมาะกับใคร

1. คนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย ขอบหน้าไม่ชัด มีเนื้อส่วนเกินแนวขอบกรามเยอะ ยังไม่อยากผ่าตัดดึงหน้า ไม่ต้องการทำหัตถการที่ต้องมีการพักฟื้น
2. คนที่ใบหน้ามีเนื้อแก้มเยอะหรือมีเหนียง
3. คนที่ต้องการยกกระชับเปลือกตา เปลือกตาเริ่มตก หนังตาตก ต้องการยกคิ้ว
4. คนที่มุมปากเริ่มตก มีร่องหรือริ้วรอยในระยะเริ่มต้น แต่ยังไม่อยากฉีดbo-tox
5. คนที่ต้องการเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวหน้าเพิ่มมากขึ้น

ขั้นตอนการทำ thermage

1. พนักงานทายาชาบริเวณที่ทำเทอร์มาจและรอประมาณ 45-60 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
2. แพทย์ออกแบบตำแหน่งในการยกกระชับผิว
3. แพทย์ลอกรูปตาราง (Grid Paper) ลงบนผิวคนไข้ เพื่อความแม่นยำในการรักษา (แพทย์บางคนไม่ใช้รูปตาราง เนื่องจากมีความแม่นยำในการรักษาอยู่แล้ว หรือคนไข้บางรายอาจเกิดผื่นแพ้ส่วนผสมในการลอกรูปตารางลงบนผิว ขั้นตอนนี้จึงอยู่ในดุลยพินิจตามความเหมาะสมของแพทย์ที่จะใช้หรือไม่ใช้รูปตาราง)
4. แพทย์เริ่มทำการรักษา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง
5. ขณะรักษาคนไข้มีความรู้สึกแบ่งเป็น 3 ระยะด้วยกัน คือ

• รู้สึกเย็นสบายที่ผิวจากการที่แพทย์ใช้เจลที่มีความเย็นกับผิว เพื่อปกป้องผิวชั้นบน
• ผิวเริ่มสั่น เมื่อหัว Treatment Tip ของเครื่องเทอร์มาจแตะที่ผิวในตำแหน่งที่ทำการรักษา
• ต่อมารู้สึกว่าหัว Treatment Tip สั่น และมีความร้อนสลับเย็นที่บริเวณผิว โดยความรู้สึกนี้จะใช้ระยะเวลา 2 วินาที ต่อ 1 Shots ซึ่งเป็นความรู้สึกที่พลังงาน ‘RF’ ถูกส่งผ่านผิวหนังลงไปสู่ผิวชั้นลึก เกิดเป็นพลังงานความร้อนในบริเวณที่ทำการรักษาและยกกระชับผิวขึ้น ระหว่างทำการรักษา แพทย์จะถามความรู้สึกร้อนของคนไข้เป็นระยะ ๆ เพื่อปรับค่าพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยแบ่งระดับความรู้สึกตั้งแต่ 0-4 ระดับ ดังนี้

1. ระดับ 0-1 รู้สึกผิวสั่นอย่างเดียว แต่ไม่อุ่น การรักษาจะได้ผลที่ต้องการน้อย
2. ระดับ 2-2.5 ร้อนในระดับที่ทนได้ ให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่ต้องการ
3. ระดับ 3-4 ร้อนมากเกินไป ให้ผลลัพธ์ชัดเจนกว่าระดับอื่น แต่อาจทำให้บาดเจ็บหรือเกิดผลข้างเคียงบ้างในบางรายที่ผิวแพ้ง่าย
4. เมื่อครบจำนวน Shots แล้ว อาทิ 600, 900, หรือ 1,200 Shots สำหรับ Thermage CPT หรือ 300, 450 หรือ 900 shots สำหรับ Thermage FLX แพทย์จะใช้ความเย็นแก่ผิวชั้นบนเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งการทำเทอร์มาจ หากใช้บริการกับสถาบันที่แพทย์และคลินิกมีความน่าเชื่อถือ คนไข้จะได้รับความปลอดภัยสูงถึง 99% ส่วนอีก 1% อาจมีผลข้างเคียงบ้างเล็กน้อยและเกิดขึ้นเฉพาะบุคคล เช่น อาการบวม รอยแดง ตุ่มน้ำเล็ก ๆ ซึ่งส่วนมากผลข้างเคียงจะเกิดได้เล็กน้อยมากและหายไปภายในระยะเวลารวดเร็ว
5. หลังการรักษาทันที คนไข้จะไม่มีอาการเจ็บปวด แต่บางรายผิวอาจจะเป็นสีแดงหรือชมพูประมาณ 1 ชั่วโมง หรือมีรอยบวม ซึ่งจะหายไปภายใน 1 วัน หลังจากนั้นคนไข้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ แต่งหน้า และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
6. ผลลัพธ์จะเห็นผลทันทีหลังรักษาประมาณ 20% โดยเฉพาะแนวขากรรไกรที่กรอบหน้าคมชัดขึ้น และผลการรักษาจะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งเข้าสู่เดือนที่ 6 โดยผลการยกกระชับผิวหน้าให้เรียบเนียนเข้ารูปด้วยเครื่องเทอร์มาจจะคงอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล หลังจากนั้นถ้ามีการรักษาด้วยเทอร์มาจซ้ำอีก ผลการรักษาจะอยู่ได้ยาวนานขึ้นและผิวพรรณจะแลดูอ่อนกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัดขึ้น

ผลลัพธ์หลังการทำ  thermage

1. ใบหน้ายกกระชับและเรียวขึ้น
2. หนังตาบนกระชับขึ้น คิ้ว หางตายกขึ้น
3. ริ้วรอยและร่องแก้มตื้นขึ้น
4. ผิวหน้าสดใส แลดูอ่อนเยาว์
5. ช่วยยกกระชับผิว และลดริ้วรอย
6. แก้ปัญหาคิ้วตก หนังตาตก และผิวเปลือกตาที่มีรอยย่น
7. ลดปัญหาผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย และเพิ่มความเรียบเนียน