You are currently viewing eMatrix เลเซอร์รักษาหลุมสิว มีวิธีการรักษายังไง ทำไมต้องใช้ตัวนี้

eMatrix เลเซอร์รักษาหลุมสิว มีวิธีการรักษายังไง ทำไมต้องใช้ตัวนี้

eMatrix เลเซอร์รักษาหลุมสิว

ematrix เลเซอร์สำหรับผิวหน้า หลุมสิว ริ้วรอย เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยกระชับผิวหน้า เม็ดสีบนใบหน้าสม่ำเสมอเรียบเนียน รักษาหลุมสิวอย่างได้ผล โดยใช้หลักการ Sublative Rejuvenation โดยการใช้คลื่นวิทยุระบบ fractional ที่พัฒนาพิเศษปล่อยคลื่นพลังงานออกมาในรูปแบบพิรามิด ทำให้พลังงานมีการกระจายลงไปในชั้นคอลลาเจนของผิวชั้นในได้เป็นบริเวณกว้างและลึก ในบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อโดยรอบ จะช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวและเร่งการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้เกิดขึ้น มีความปลอดภัยกับทุกสภาพผิวอีกทั้งยังฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แผลหลุมสิวจึงได้รับการเติมเต็มและดีขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยถนอมผิวด้านบนไม่ให้ได้รับความเสียหาย

การรักษาหลุมสิว ทำไมต้องรักษาด้วย eMatrix

หลุมสิวเกิดจากสิวอักเสบที่ไปทำลายคอลลาเจน ทำให้เกิดการบุ๋มลงของชั้นผิวด้านใน พอร่างกายสร้างผิวขึ้นมาใหม่ จึงกลายเป็นผิวไม่เรียบ ถ้าสิวอักเสบเพิ่งหายใหม่ๆ ยังเห็นเป็นแดง ๆ ผิวยังมีโอกาสที่จะสร้างใหม่ให้เต็มได้อยู่ ผลจากการปล่อยสิวจนถึงขั้นอักเสบ ยากต่อการรักษา ทำให้เกิด หลุมสิว เป็นพื้นที่ลึกเข้าไปถึงชั้นในของผิวหนัง ส่งผลเนื้อบางส่วนหายไปจนเกิดเป็นหลุมขึ้นมาบนใบหน้า การฟื้นฟูให้หน้ากลับเป็นเหมือนเดิมจะเริ่มไม่ง่ายแบบตอนเริ่มเป็นสิว ขึ้นกับระดับความรุนแรงและลักษณะของหลุมสิว อาจต้องใช้การรักษาด้วยเลเซอร์เข้าช่วย

กลไกของเครื่อง E-Matrix จะส่งกระแสพลังงาน RF (Radiofrequency) ลงไปใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อนลงไปใต้ผิวที่ความลึกแตกต่างกันในแต่ละโปรแกรม ความร้อนจากกระแส RF จะลงไปที่ผิวชั้นบน (epidermis) และชั้นล่าง (dermis) โดยจะทำให้เกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออก (Ablation and Resurfacing) ในขณะที่ความร้อนบางส่วนจะลงไปบริเวณผิวชั้นล่างเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้เม็ดสีจางลง ผิวตึง กระชับรูขุมขน รักษาหลุมสิว กระชับผิวหน้าให้เรียบเนียน

eMatrix เลเซอร์รักษาหลุมสิว มีข้อดีอย่างไร

ข้อดีของคลื่น RF

  • พลังงาน RF ไม่มีผลต่อสีผิว จึงไม่เกิดรอยไหม้แบบเลเซอร์
  • ช่วยทำให้หน้าใส ลบริ้วรอย ผิวสม่ำเสมอ จุดด่างดำลดลง ผิวตึงกระชับ
    ปลอดภัยแม้จะบริเวณรอบดวงตา โดยไม่ส่งผลต่อขนตา หรือ เปลือกตา กระชับผิวใต้ดวงตาให้ดูกลมโตขึ้น ดีต่อผิวหนังใบหน้า หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวหน้าเรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัด

หลังทำควรดูแลตัวเองอย่างไร

  • ประคบเย็นหลังทำทันที
  • ผิวหน้าอาจจะมีสีแดงชมพู และมีสะเก็ดบางๆ ซึ่งจะหลุดออกได้เองภายใน 5-7 วัน แนะนำให้ทายา ทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อให้สะเก็ดหลุดออกได้ดียิ่งขึ้น
  • ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ ไม่ควรถูหน้าแรงๆ
  • 24 ชม.แรกหลังทำ ควรทาด้วยวาสลีนหรือยาตามที่แพทย์สั่ง เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นตลอดเวลา
  • หลังจาก 24 ชม.แรก สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน หลีกเลี่ยงการใช้สครับ วิตามินเอชนิดทา กรดผลไม้
  • หลังจาก 24 ชม.แรก สามารถแต่งหน้าได้บางๆ
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ความร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการรักษา
  • ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF>30+++

ต้องทำ ematrix เลเซอร์ หลุมสิว กี่ครั้งถึงจะเห็นผล

ผลการรักษาจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากทำในแต่ละครั้ง โดยส่วนใหญ่เริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการ จำนวนครั้งที่แนะนำคือ 3 ครั้งขึ้นไปก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ระยะห่าง 4-6 สัปดาห์ต่อครั้ง หรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ เมื่อครบคอร์สแล้วสามารถมาทำซ้ำได้ทุก 6 เดือน

ประมาณ 2-4 สัปดาห์ จะเริ่มสังเกตว่ารูขุมขนกระชับ เรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยดูจางลง และจะสามารถเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นเมื่อทำครบคอร์ส

ผลการรักษาขึ้นอยู่กับการดูแลผิว และปัญหาของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปผลจะคงอยู่เรื่อย ๆ แนะนำอาจกระตุ้นซ้ำทุก 6-12 เดือน

ความปลอดภัยของการรักษาด้วย eMatrix

ปลอดภัยกับทุกสภาพผิวและทุกสีผิว ได้รับมาตรฐาน FDA สหรัฐอเมริกา และได้ผลจริง หลังการรักษาอาจเกิดอาการบวม แดง เจ็บเล็กน้อย อาจมีตุ่มน้ำหรือสะเก็ดหลังทำ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิดปกติ (ซึ่งจะเกิดขึ้นได้น้อย)

การรักษาหลุมสิวควรจะเว้นระยะให้คอลลาเจนสร้าง ซึ่งคอลลาเจนจะใช้เวลาสร้างตัวสูงสุดคือ 3 เดือน แต่ถ้าอยากให้หลุมสิวหายไว แนะนำว่าทำเดือนละครั้งจะเห็นผลไวกว่า ประมาณ 3 – 5 ครั้ง ขึ้นกับหลุมสิวของแต่ละคน บางคนครั้งแรกก็เห็นชัดเลยว่าตื้นขึ้นมาก ๆ บางคนก็ต้องทำต่อไปเพื่อให้หลุมสิวตื้นขึ้นมากที่สุด