You are currently viewing เลเซอร์ e matrix ต้องเตรียมตัวก่อนทำอย่างไร มีข้อดีอะไรบ้าง

เลเซอร์ e matrix ต้องเตรียมตัวก่อนทำอย่างไร มีข้อดีอะไรบ้าง

เลเซอร์ e matrix การรักษาโดยใช้หลักการ Sublative Rejuvenation โดยการใช้คลื่นวิทยุระบบ fractional ที่พัฒนาพิเศษปล่อยคลื่นพลังงานออกมาในรูปแบบปิรามิด ทำให้พลังงานมีการกระจายลงไปในชั้นคอลลาเจนของผิวชั้นในได้เป็นบริเวณกว้างและลึก ในบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อโดยรอบ จะช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวและเร่งการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้เกิดขึ้น มีความปลอดภัยกับทุกสภาพผิวอีกทั้งยังฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว แผลหลุมสิวจึงได้รับการเติมเต็มและดีขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยถนอมผิวด้านบนไม่ให้ได้รับความเสียหาย จึงช่วยลดการเกิดสะเก็ดและรอยดำหลังการรักษาได้ดีกว่า

กลไกการทำงานของ e matrix

กระแส RF จะลงไปใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดความร้อนลงไปใต้ผิวที่ความลึกแตกต่างกันในแต่ละโปรแกรม ความร้อนจากกระแส RF จะลงไปที่ผิวชั้นบน (epidermis) และชั้นล่าง (dermis) โดยจะทำให้เกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออก (Ablation and Resurfacing) ในขณะที่ความร้อนบางส่วนจะลงไปบริเวณผิวชั้นล่างเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ทำให้เม็ดสีจางลง ผิวตึง กระชับ ริ้วรอย หลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับ เรียบเนียน Tip ที่มีจำนวน 64 pin จะทำให้เกิดการทำลายผิวหนังด้านบน (ablation) เพียงเล็กน้อย อาจเกิดแผลขนาดเล็ก ซึ่งจะหายได้อย่างรวดเร็ว (minimal downtime) ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงโดยเฉพาะในคนผิวคล้ำ ในขณะเดียวกันความร้อนที่เกิดจากพลังงาน RF จะลงไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ที่ผิวด้านล่าง ทำให้ริ้วรอย และหลุมสิวตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวเรียบเนียน ตึง กระชับมากขึ้น ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น

เลเซอร์ e matrix

มีโปรแกรม แต่ละโปรแกรมแตกต่างกันอย่างไร

เนื่องจากปัญหาของผิวในแต่ละคนมีความรุนแรงแตกต่างกัน เลเซอร์ e matrix  จึงมีโปรแกรมให้เลือกถึง 3 โปรแกรม เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาของผิวที่มีความแตกต่างกัน โดย

  1. Program A เหมาะสำหรับริ้วรอยตื้น ๆ ทำให้หน้ากระจ่างใส ผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ จะเกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออกเพียงเล็กน้อย อาจไม่เห็นเป็นสะเก็ดเลย
  2. Program B เหมาะสำหรับริ้วรอยปานกลาง หลุมสิว รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ จะเกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออกบางส่วน อาจเห็นเป็นสะเก็ดบาง ๆได้บางจุด
  3. Program C เหมาะสำหรับริ้วรอย หลุมสิวลึก จะเกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออก อาจเห็นเป็นสะเก็ดได้บางจุด พลังงาน RF จะสามารถลงไปได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน

ข้อดีของการรักษาด้วย E-Matrix

  1. E-Matrix สามารถปรับระดับความลึกและความแรงของพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวที่ต่างกันได้ถึง 3 ระดับ
  2. ด้วยพลังงานแบบปิรามิดทำให้มีความร้อนปล่อยลงสู่ผิวชั้นลึกในปริมาณมาก ช่วยทำให้การรักษามีประสิทธิภาพ
  3. พลังงาน RF จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน จนเกิดการผลัดเชลล์ผิวช่วยฟื้นฟูหลุมสิวได้อย่างอ่อนโยน
  4. E-Matrix ใช้หัวทิปทองคำแท้ ซึ่งเป็นวัสดุที่นำกระแสไฟฟ้าได้ดีที่สุด ไม่เกิดเขม่าหรือสนิม และเกิดอาการแพ้ได้น้อย
  5. ขั้นตอนการรักษาไม่ยุ่งยาก
  6. ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน เพียง 10-20 นาทีเท่านั้น
  7. ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ

เลเซอร์ e matrix รักษายังไง

การเตรียมตัวก่อนทำ E-Matrix

  1. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ๆ ก่อนทำอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  2. งดแต่งหน้าเมื่อถึงวันกำหนดนัดทำ E-Matrix

บทความแนะนำ รักษาเส้นเลือดขอด จาก Rattinan.com

การดูแลหลังทำ  E-Matrix

  1. หลังการรักษาควรทาอโลเวร่าเจล เพื่อบรรเทารอยแดง และอาการร้อนบริเวณผิว จะค่อย ๆ ดีขึ้นประมาณ 3 ชั่วโมง เนื่องจากพลังงานจำนวนมากที่ลงไปกระตุ้นบริเวณผิวด้านล่าง
  2. หลังรับการรักษางดล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเป็นเวลา 2 วัน เพื่อป้องกันการอักเสบและการระคายเคืองต่อผิว แนะนำให้ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดค่อย ๆเช็ดแทน
  3. งดแต่งหน้า ภายใน 3 วันหลังทำ เพื่อป้องกันการอักเสบและการระคายเคืองต่อผิว
  4. หลังการรักษา 3 วัน จะเกิดสะเก็ดบาง ๆ เป็นจุดไข่ปลา ปล่อยให้สะเก็ดหลุดลอกไปเองห้ามแกะหรือเกา หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
  5. งดบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และของหมักดองทุกชนิด 1 สัปดาห์
  6. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ๆ เป็นเวลา 1 เดือน