อาการคันรอบ ๆ จุดซ่อนเร้นเป็นอาการที่พบได้มากในผู้หญิง ซึ่งสาว ๆ หลายคนไม่รู้ต้นเหตุที่จริงจริงของอาการนี้ ซึ่งเป็นอาการเริ่มที่บ่งบอกว่า บางทีอาจมีการติดเชื้อราภายในช่องคลอด โดยพบว่า 9 ใน 10 ของอาการคันรอบ ๆ จุดซ่อนเร้นคัน มีสาเหตุจากการติดเชื้อราข้างในช่องคลอด และเชื้อราที่มักพบเป็นเชื้อราในกลุ่มแคนดิดา บางคราวอาจมีอาการตกขาวร่วมด้วย ตกขาวที่เกิดจากเชื้อรา จะมีลักษณะเฉพาะเหมือนนมที่จับตัวเป็นก้อนสีขาว หรือสีเหลืองคล้ายนมที่เด็กทารกแหวะออกมา ไม่มีกลิ่น แต่ว่าถ้าหากพบว่าตกขาวมีกลิ่นฉุนหรือมีสีเข้มควรจะรีบปรึกษาแพทย์โดยทันที
คันช่องคลอด มีต้นเหตุจากอะไร ?
- วัยทองสตรีที่ไปสู่วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือนจะมีระดับของฮอร์โมนผู้หญิงเอสโตรเจนต่ำลง ทำให้เมือกที่ฉาบช่องคลอดบางลง นำมาซึ่งการทำให้ช่องคลอดแห้ง จนถึงอาจจะส่งผลให้เกิดอาการคันและก็เคืองได้
- โรคผิวหนังโรคผิวหนังบางประเภท อาจก่อให้ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นเกิดอาการคันและก็แดง อาทิเช่น โรคผิวหนังอักเสบที่มักกำเนิดกับคนป่วย โรคภูมิแพ้หรือโรคหืด โดยอาจมีผื่นแดงคันหรือเป็นสะเก็ด รวมทั้งอาการบางทีอาจแพร่กระจายไปยังช่องคลอด หรือโรคสะเก็ดเงินที่มักทำให้ผิวหนังเป็นสะเก็ด มีลักษณะคันหรือแดงบริเวณหนังศีรษะแล้วก็ตามข้อพับต่าง ๆ ฯลฯ
- ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียเป็นภาวะที่เกิดขึ้นมาจากความไม่พอดีกันของแบคทีเรียชนิดที่ดีและไม่ดีซึ่งอยู่ข้างในช่องคลอด โดยอาการที่พบได้ทั่วไปเป็นคันรอบ ๆ ช่องคลอด ตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจมีลักษณะบาง เป็นสีขาว เทาขุ่น หรือเป็นฟอง
- การรับเชื้อราเป็นโรคที่พบได้มากในสตรี โดยมีเหตุที่เกิดจากการเพิ่มจำนวนของเชื้อราในช่องคลอดที่มากกว่าปกติ ก่อให้เกิดอาการคัน รู้สึกแสบร้อน แล้วก็อาจมีตกขาวลักษณะเป็นก้อนไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะ เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เพราะเหตุว่ายาดังที่กล่าวถึงมาแล้วจะทำลายแบคทีเรียจำพวกที่ดีที่ช่วยควบคุมปริมาณของเชื้อราในช่องคลอด
การดูแล และข้อปฏิบัติเพื่อไม่ให้จุดซ่อนเร้นคัน มีกลิ่น
อย่าโกนขนอวัยวะเพศ
ไม่ต้องโกนขนบริเวณอวัยวะเพศให้เกลี้ยง เนื่องจากขนนั้นมีคุณประโยชน์มากมายแม้ว่าจะรกมองรกรุงรังไปหน่อยก็ตาม ด้วยขนนั้นมีบทบาทคุ้มครองไม่ให้กลิ่นจากด้านในออกมาเหม็นฟุ้งภายนอก และป้องกันการระคายเคือง ไม่ใหเกิดจุดซ่อนเร้รคนอีกด้วยและไม่ควรจะดึง แว็กซ์ หรือถอน แค่เพียงตกแต่งให้เป็นรูปเป็นทรง หรือเล็มปลายก็พอเพียง ขนอวัยวะเพศเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ช่วยป้องกันเชื้อโรคไปสู่ช่องคลอดได้ แล้วก็ช่วยลดแรงเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ แถมช่วยควบคุมอุณหภูมิแก่อวัยวะ ไม่ให้อุณหภูมิเปลี่ยนพรวดพราดอีกซะด้วย
ไม่สมควรใส่ยีนส์คับแน่น
การแต่งกายยุคใหม่ จึงทำให้มีการเกิดความอับเปียกชื้นมากขึ้น ซึ่งมีผลวิจัยทางการแพทย์ออกมาแล้วว่า หญิงที่สวมกางเกงยีนส์มีโอกาสติดเชื้อรามากยิ่งกว่า สตรีที่มิได้ใส่ถึง 3 เท่า รวมทั้งเมื่อคุณอยู่บ้านให้ห้องส่วนตัวการใส่กางเกงในก็ไม่มีความจำเป็น ควรจะปล่อยโล่งซะบ้างจะได้ไม่ชื้นแฉะ
ทำความสะอาดแบบเช็ดหลังมาหน้า
เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ช่องคลอดมีกลิ่น และคัน เนื่องจากว่าบางบุคคลบางทีอาจลืม หรือทำเป็นนิสัยด้วยการเช็ดชำระล้าง หลังจากขับถ่ายแล้วแบบจากหลังมาหน้า
กินยาปฏิชีวนะบ่อยเกิน
การกินยาปฏิชีวนะมากเกินไป หรือรับประทานต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน หรือบางบุคคลรับประทานยารักษาสิวเป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็ไม่หยุดรับประทานสักทีนั้น ยาปฏิชีวนะจะไปทำลายเจ้าเชื้อแบคทีเรีย “แลคโตบาซิลลัส” ที่มีบทบาทฆ่าเชื้อโรคราในช่องคลอด ต่อนี้ไปก็เลยเป็นช่องทางให้เชื้อราเติบโตอยู่ด้านในช่องคลอด ตกขาว หรือกลิ่นก็จะตามมาจนถึงเซ็งไปตาม ๆ กัน
ไม่ควรใส่แผ่นอนามัยถ้าหากไม่จำเป็น
ใส่แผ่นอนามัยเท่าที่จำเป็นเพียงแค่นั้น ไม่ควรใส่ทุกวัน เนื่องจากรู้สึกว่าสะอาดดี หรือใช้เฉพาะวันที่มีตกขาว หรือวันท้าย ๆ ของการมีประจำเดือนเพียงแค่ 2-3 วันก็เพียงพอแล้ว ควรจะปลดปล่อยให้ช่องคลอดของเราได้มีอากาศระบายลมเข้าบ้างอะไรบ้าง เพราะเหตุว่าการใส่แผ่นผ้าอนามัยนั้นยิ่งทำให้ชื้นแฉะ แล้วก็ในตอนที่เป็นประจำเดือน ควรจะเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 2 ชั่วโมง ความอับเปียกชื้นจะก่อให้แบคทีเรียในผ้าเติบโตเจริญ จนถึงคุณอาจจะติดเชื้อในช่องคลอด